น้องต่ายกับแม่ชีเทเรซ่า

4.
น้องต่าย
กับแม่ชีเทเรซ่า
Mother
Teresa
เพื่อจะได้พบสิ่งที่เรียกว่าความสุข คนเราอาจจำเป็นต้องกล้าเสี่ยงกับความทุกข์มากกว่านี้ก็ได้

-
----------------

--------------


สวัสดีค่ะ...พี่ ปราย :)
-------------------
ต่ายว่าโลกของเราเต็มไปด้วยการหาคำอธิบาย พี่ว่าจริงมั้ยคะ:) มนุษย์เราพยายามอธิบายสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น หรือสิ่งที่เราไม่ได้มี และสิ่งที่เราไม่ได้เป็น ด้วยเหตุผลและเครื่องมือต่างๆ ทีสำหรับต่ายแล้ว...ต่ายเรียกมันว่า มุมมองนะ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการคิดแบบ สังคมนิยม ทุนนิยมสุดขั้ว แบบเรียลลิสลิกสุดฤทธิ์ หรือแบบโรแมนติกอย่างแรง ต่ายว่าสามารถนิยามได้ด้วยคำเดียวกัน ซึ่งก็คือคำว่ามุมมองนั่นเอง
------------------------
วันนี้ได้ไปเจอคำคมที่เคยชอบมากๆ (แต่ลืมไปแล้ว) ในหนังสือรวมคำเล่มนึงค่ะ :) ดูซิ...ขนาดชอบยังลืมๆได้ แม่ชีเทเรซ๋า บอกว่า “If you judge people you have no time to love them” มาอ่านอีกทีตอนนี้ต่ายว่ามันเป็นมุมมองที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางความรักหลายๆ เรื่องบนโลกนี้ได้ พี่สาวของพ่อต่ายคนนึง ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วยเครื่องกรองหลายระดับที่มีความแตกต่างกัน เค้าบอกว่าถ้าเข้ามาเป็นเพื่อนนี่ไม่คต้องกรองเท่าไหร่ นิสัยรับได้ก็คบกันได้แล้ว แต่ถ้ามีใคร หน้าไหน จะก้าวเข้ามาในเชิงความสัมพันธ์ที่ลึกกว่านั้นเนี่ยสิ จะจเอกับเครื่องกรองประสิทธิภาพสุดยอด กรองออกมาได้ผลละเอียดถี่ยิบ ถ้าผ่านได้ไม่ละลายหายไปในอากาศซะก่อน
------------------------------------------------
ก็ใช่ว่าจะจบแค่นั้นนะคะ ยังจะต้องมาเจอกับการประเมินอีกหลายขั้นตอน และสุดท้ายคือการตัดสิน หรือถ้าจเรียกให้โอเว่อร์แต่ทรงพลังเข้าไว้ ก็คือ... การพิพากษานั่นแหละ...แต่เท่าที่สังเกตดูไม่ค่อยมีใครผ่านเข้ามาถึงขั้นนี้หรอกค่ะ เอิ๊กๆๆ ส่วนใหญ่จะไปตายติดกันอยู่แถวๆ เครื่องกรองนั่นแล้วล่ะ
---------------
ต่ายเคยคิดว่ามุมมองวิธีคิดแบบนี้มันเท่มากเลยค่ะพี่ เป็นแนวที่ทำให้เราปกป้องตัวเองจากหลายๆ อย่างได้ แต่ต่ายก็ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะคะ ซึ่งไม่แปลกอะไร มีเรื่องที่ต่ายชอบแต่ทำไม่ได้ถมไป :) แต่พอวันนี้มาเจอคำพูดของแม่ชีเทเรซ่า เข้าอีกรอบหนึ่ง ความชอบเลยสะดุดกึกะทันหันค่ะ นั่นสิเนอะ... ถ้าเรามัวแต่เอาเวลาไปตัดสิน คงไม่มีเวลาเหลือจะไปรักใครหรอก
-----------------
บางที... เพื่อจะได้พบสิ่งที่เรียกว่า ความสุข คนเราอาจจำเป็นต้องกล้าเสี่ยงกับความทุกข์มากกว่านี้ก็ได้ อันที่จริงมันเข้ากับหลักความเชื่อของต่ายอยู่เหมือนกันนะคะ ต่ายว่ามีนิสัยชอบเสียงอยู่ระดับหนึ่งเลยล่ะ ไม่ค่อยมีเรื่องไหนในชีวิตที่ทำแบบเอาปลอดภัย เดินทางสายกลาง อะไรประมาณนั้น มีพี่คนนึงเคยแขวะว่าต่ายเป็นคนประเภท Upper หรือ Lower อยู่ตลอดเวลา เดินทางสายกลางไม่เป็น ไม่รู้จักความพอดี แต่ก็อีกแหละค่ะ อะไรคือความพอดีล่ะ ทางสายกลาง อาจพอดีสำหรับใครบางคน แต่อาจไม่พอดีสำหรับต่ายก็ได้... ใครจะไปรู้ :)
--------



จดหมายของต่ายฉบับนี้... พิมพ์อีกแล้ว... ยังยืนยันเหมือนเดิมค่ะ ว่าชอบอารมณ์ของการนั่งเขียนด้วยลายมือจริงๆ มากกว่า แต่คนเราไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ยคะ :) อิๆๆๆ อันที่จริงช่วงนี้แอบๆ ยุ่งอยู่หน่อยๆค่ะพี่ เลยไม่มีเวลานั่งเขียน ที่โรงเรียนมีกิจกรรมเข้ามามากมาย ถึงต่ายจะเป็นเด็กเลวไม่ค่อยได้ทำ พลังอำนาจแห่งความยุ่งเหยิงก็ยังกระเซ็นมาโดนตัวเอาบ้างอยู่ดี นี่ก็นั่งพิมพ์รายงานอยู่เล่มนึง นอกจากนั้น... ช่วงนี้ยังเป็นเวลาสำหรับการเตรียมใจรับสถานการณ์ เพราะผลคะแนนเอนทรานซ์รอบแรกจะออกแล้วจ้า!!! หุๆๆๆ เอนทรานซ์ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต แต่ยังไงซะก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีโอกาสเลือกทางดำเนินชีวิตอยู่ดี ดังนั้น เอนท์ติดย่อมดีกว่าแน่นอน ดีกว่าเยอะค่ะ
----------
อ้อ! ... ต่ายยังไม่ได้อ่าน มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี เลยค่ะพี่ น่าน้อยใจชะตากรรมของเด็กต่างจังหวัดซะจริงๆ ฮิๆๆๆ ก็มันยังไม่มีมาขายแถวนี้เลยอ่ะ
----------------------------------
ก็หวังว่าพี่'ปราย จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขนะคะ ในโลกนี้คงไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าความสุขอีกแล้ว อวยพรไปยังไม่รู้เลยว่าพี่จะมีเวลาอ่านจดหมายต่ายรึเปล่า
--------------
แต่ช่างเถอะค่ะ ต่ายพอใจแค่ได้เขียนแค่นั้นล่ะค่ะ
--------
จาก: วนัสนันท์ สะสม /พิษณุโลก
www.geometry.net
www.excerptsofinri.com
www.americancatholic.org
Mother Teresa
painted by Judi Wild

www.judiwildartist.com